Wednesday, September 29, 2010

A Life of an Eagle

วันนี้ฟังProf.Cooray แนะนำวิชาที่อาจาย์จะสอนในเทอม fall 2010 นี้
เข้ามาปุ๊บ อาจารย์ ยังไม่ว่าเรื่องวิชาทันที
แต่เริ่มต้นด้วย สไลด์ เรื่องA Life of an Eagle

เป็นเรื่องราวของ เหยี่ยว ซึ่งเป็นนกที่มีอายุขัยนานที่สุดในบรรดานกทั้งหมด
คือ อายุยืนประมาณ 70 ปี
(โห...พอๆกับมนุษย์)

แต่เมื่อมันถึงวัย 40 ปี เหยี่ยวจะต้องตัดสินใจว่าจะตาย หรือจะอยู่ต่อไป
เพราะเมื่ออายุได้ 40 ปี กรงเล็บที่เคยแหลมคม ก็จะอ่อนแอลงมาก
จะงอยปากที่เคยแข็งแรง จะโค้งลงๆ และอ่อนแอลง
ปีกก็จะไม่สามารถกางและบินได้อย่างตอนหนุ่มๆ
ไม่สามารถโฉบลงไปล่าเหยื่อ หามาเป็นอาหารได้ดังเดิม
เจ้าเหยี่ยวก็อาจจะต้องตาย...

แต่ถ้ามันตัดสินใจแล้ว ว่าจะมีชีวิตต่อไป
เจ้าเหยี่ยววัย 40 จะต้องผ่านความทรมานอย่างยิ่งยวดเป็นเวลาอีก 150 วัน
โดยมันจะต้องบินขึ้นไปสู่หน้าผาสูง
นั่งนิ่ง และเอาจะงอยปาก กับกรงเล็บ เคาะฟาดลงที่หินผา
จนกระทั่งเล็บ และจะงอยปากที่ใช้การไม่ได้แล้วหลุดออกมา
จากนั้น นั่งนิ่ง รอให้เล็บ และจะงอยปากค่อยๆ งอกออกมาใหม่
แล้วจิก ถอนขนเก่าของตัวเองออก

เหยี่ยวจะร่างใหม่ เล็บใหม่ จะงอยใหม่
พร้อมหาอาหารได้อีกครั้ง และมีชีวิตต่อไปอีก 30 ปี!!

Oh! เป็นเรื่องราวสร้าง Motivation ให้พวกเราที่เข้ามาเรียนปีนี้
What we can learn from an eagle?
CHANGE is needed.
Work hard, patience,perseverance, sacrifice, diligent....
เพียงแต่ว่าของเรา มันอีก 2 ปี มิใช่ 150 วัน
ha ha ha



Friday, September 24, 2010

Rice harvesting farmer in Japan

@ Japan,
The town I am in ,is Urasa.
The farmers (only 2 people,an old man and an old lady),are harvesting their little rice field.

It looks so easy,
because they have a smart harvesting tractor.

Just ride it straight on the field,
and the tractor picks up the rice and puts it in bunches!




Hygiene


In Japan,
toilets @ train stations are very hygiene
Because you don't have to touch to flush.

Just wave your hand near the censor,

and then... it flushes!

Wednesday, September 22, 2010

เซียรา ลีโอน

เมื่อวานเจอเพื่อนร่วมมหาลัยคนหนึ่งจากประเทศเซียร่า ลีโอน(Sierra Leone)
นั่งใกล้ๆตอนไปลงทะเบียนคนต่างดาว เอ๊ย ต่างด้าว (คนที่อยู่ในญี่ปุ่นเกิน 90 วัน)
เวรกรรม..แนะนำตัวกันเสร็จ ตูก็ไม่รุจะคุยอะไรกับเขาดี
ก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศเขาซักเท่าไหร่
รู้แต่ว่าเป็นประเทศในแอฟริกา แน่นอน ชาวแอฟริกันผิวดำ
มีสงคราม..(แต่ก็ไม่รู้สงครามอะไร ยังไง)
ในขณะที่เค้ารู้เรื่องเมืองไทยดี มี การประท้วง
red/yellow อะไรก็ว่าไป แถมแสดงความเห็นได้ด้วย
ว่าตำรวจเอย กฎหมายเอย....etc.
ส่วนไอ้เราก็ยังไม่รู้จะคุยอะไร แต่มันคาใจ เลยมานั่ง search หาข่าวเกี่ยวกับประเทศของเขา

ก็ได้ความรู้พื้นฐานมาบางส่วน
ว่าเซียร่า ลีโอน มีเมืองหลวงชื่อ Freetown เป็นประเทศที่มีสงครามกัน(รายละเอียดเรื่องสงครามเดี๋ยวขอ search ต่อก่อน) ถึงขนาดต้องมี กองกำลัง UN เข้าไปรักษาความสงบ
แต่มีปัญหาคือ ที่นี่มีเหมืองเพชรที่มีค่า
และ UN เข้าไปในบริเวณนี้ไม่ได้ เพราะกลุ่มที่มีปัญหา(กลุ่มต่อต้านรัฐบาล)จะไม่ยอมให้เข้ามาบริเวณที่มีเพชร สรุปคือมีความขัดแย้งกันอันเนื่องมาจาก เพชร
เพชรคือแหล่งรายได้ของประเทศนี้ และรัฐบาลซึ่งเป็นรัฐบาลทหาร ไม่ส่งมอบอำนาจให้แกพลเรือน
แต่ก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้เนื่องจาก มีการต่อต้าน และรํฐไม่สามารถควบคุมแหล่งเศรษฐกิจของประเทศได้
มีสนธิสัญญาสันติภาพ Lome Peace Accord ขึ้นมา แต่ก็ถูกระงับ ใช้ไม่ได้
searchในกูเกิล ไปมาก็จะเจอภาพจากสงครามอันน่าสยดสยอง
......
เอาแค่นี้ก่อนละกันเนอะ
เพราะว่า ก็ยังไม่พอจะเอาไปคุยกับหนุ่มเซียร่าได้
(จะไปคุยเรื่องสงครามก็ยังไงๆอยู่)
ถึงแม้ว่าจะมีสถานที่สวยงามในเซียร่า แต่...จะคุยว่าน่าไปเที่ยว
ก็จะกระอักกระอ่วนไปรึป่าว

เอาเป็นว่าเดี๋ยวขอไปตั้งตัวใหม่ก่อนละกันน้าา




Beautiful RAINBOW flowers at the Party




I wonder how they can do this?

22 Sept,2010 Welcome Day @ IUJ



Today is the Welcome Day for new students at IUJ.

I am so glad... and honor to have a chance to study here.

We all met the Univ. Chairman, President and all professors.
I've met many new friends who are from many different countries.
Many of them are young governmental officials who received the scholarship
to get a good higher degree in Japan.
They are so mature.
This year (2010), Indonesian students are the largest group ( 34 of them, I think..?)

From Thailand, we have 12 students.
Only ME in IRP,
but there is 1 Thai in IPSP(peace study).

I feel so glad to be here today.

We have 2 Laos students: Nidnoi and Ai Vieng who wear theirs national costumes to the ceremony.
Also, Myanmar students wear their national (traditional suits)as well.
They are so beautiful.... and admirable.
oh, please keep my memory this day...'til forever.


Monday, September 20, 2010

Foods,Snacks,for the new comer

As we're in the stage of exploring things around,
anything that was found near the hand in conbini (convenient store),
I grabbed to try.hahaha.

Until.. I know how to cook here myself.(!!!!??)

light meal cookie,jelly and..light meal energy drink.
light meal??
hahaha, I didn't know that when I bought it.

But the black grapes here tasted very good!
approx. 300-400 yen.

15th Sept, I took a walk @ Yamato town

The next day after the arrival date was 15th Sept,2010.

Having some free time, so I catched a univ. bus to Urasa station,
and took a walk at the other side of Urasa station:

Yamato town


This is Bishamon-do (Fukouji Temple)



Kids on the tranquil small street






and ...hungry at end of the walk,
so I dropped at soba corner at Urasa station.

"tsuki mi soba"--

View from my dorm room


This is the view from the window of my dorm room..
I am in SD3
(now I'm sitting in it!)
mountain,
rice field,
oh.....such a serene jungle but you cannot find this in Tokyo or Bangkok,right!

In the morning..there are floating mist passing my eyes,
cool view!

First meal

My first meal in Urasa,Japan
was when we were waiting for the IUJ bus,
and it was lunch time.....

Mini ramen
@restaurant opposite to IUJ bus stop

And this is Unadon(Rice with grilled eel)
for my accompanying friendLook yummy!
yeah!

Arrival@ IUJ on 14th Sept,2010




I left Thailand on 13th Sept,2010
I flied from Chiang Mai and,
we(me & Tae & Fon) all met at the Suvarnabhumi Airport inside gate and flied together to Narita Airport.

Woo! my second time to Japan,
But this time for study and a long... stay.



After arriving Narita on 14th Sept Morning,
sent a biggggg luggage by delivery service:
(Kuro Neko Yamato)





Then, catch a Rapid train to Tokyo.
Then,catch a Shinkasen to Urasa.
Then,take university bus to the university, which I will study here for 2 years.

Here we come, IUJ!